Google Play badge

ทฤษฎีจริยธรรม


ทฤษฎีจริยธรรมสำหรับเด็ก

ทฤษฎีจริยธรรมช่วยให้เราเรียนรู้ว่าอะไรถูกและอะไรผิด เป็นแนวคิดที่ผู้คนใช้เพื่อตัดสินใจว่าจะประพฤติตนอย่างไรอย่างมีเมตตา ซื่อสัตย์ และยุติธรรม แม้ว่าแนวคิดเหล่านี้จะดูยิ่งใหญ่ แต่เราสามารถเรียนรู้ได้จากคำศัพท์ง่ายๆ และตัวอย่างในชีวิตประจำวัน ในบทเรียนนี้ เราจะมาสำรวจว่าจริยธรรมคืออะไร ศึกษาทฤษฎีจริยธรรมพื้นฐานบางประการ และดูว่าแนวคิดเหล่านี้จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีในแต่ละวันได้อย่างไร

จริยธรรมคืออะไร?

จริยธรรม คือการศึกษาว่าเราตัดสินว่าอะไรถูกและอะไรผิดได้อย่างไร เมื่อคุณคิดถึงการแบ่งปันของเล่น การบอกความจริง หรือการแสดงความมีน้ำใจต่อเพื่อน คุณกำลังคิดถึงจริยธรรม จริยธรรมแสดงให้เราเห็นว่าควรประพฤติตนอย่างไรจึงจะดีต่อทุกคน

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเล่นกับเพื่อนใหม่ คุณอาจต้องตัดสินใจว่าจะแบ่งของเล่นให้กันหรือให้เพื่อนเล่นคนเดียว เมื่อคุณตัดสินใจเลือก คุณกำลังใช้ความเข้าใจเรื่องจริยธรรมของคุณ จริยธรรมเปรียบเสมือนคำแนะนำที่เป็นมิตรที่ช่วยให้เราเลือกทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไปก็ตาม

เหตุใดทฤษฎีจริยธรรมจึงมีความสำคัญ?

ทฤษฎีจริยธรรมมีความสำคัญเพราะช่วยให้เราเข้าใจโลกในแง่มุมต่างๆ ได้ ทฤษฎีเหล่านี้บอกเราว่าเหตุใดการทำบางสิ่งบางอย่างจึงเป็นสิ่งที่ดี และเหตุใดการกระทำบางอย่างจึงอาจส่งผลเสียต่อผู้อื่น เมื่อเราตัดสินใจโดยยึดตามทฤษฎีจริยธรรม เราก็จะช่วยสร้างโลกที่ใจดีและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็นใครบางคนถูกทิ้งไว้ข้างหลังระหว่างเล่นเกม การคิดถึงเรื่องจริยธรรมอาจช่วยเตือนให้คุณชวนพวกเขามาร่วมเล่นด้วยได้ เมื่อคุณช่วยเพื่อนที่ล้มหรือเมื่อคุณเก็บขยะในสวนสาธารณะ คุณก็กำลังปฏิบัติตามแนวคิดทางศีลธรรมที่ดี ทฤษฎีจริยธรรมสนับสนุนให้เราตัดสินใจเลือกสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราเองและผู้คนรอบข้าง

ทฤษฎีจริยธรรมประเภทต่างๆ

มีทฤษฎีทางจริยธรรมหลายทฤษฎีที่ผู้คนคิดกัน แต่ละทฤษฎีจะอธิบายแนวคิดว่าอะไรดีหรือผิดในแบบของตัวเอง ต่อไปนี้เป็นทฤษฎีทางจริยธรรมหลักบางส่วนที่อธิบายได้ในลักษณะที่ผู้เรียนรุ่นเยาว์สามารถเข้าใจได้:

1. ลัทธิผลนิยม

ผลนิยมคือแนวคิดที่ว่าผลลัพธ์ของการกระทำจะตัดสินว่าการกระทำนั้นถูกหรือผิด ทฤษฎีนี้กล่าวว่าหากการกระทำใดให้ผลลัพธ์ที่ดี ก็แสดงว่าเป็นการกระทำที่ดี

ลองนึกภาพว่าคุณตัดสินใจแบ่งปันของว่างกับเพื่อน หากเพื่อนของคุณยิ้มและรู้สึกมีความสุขที่ได้กินอะไรสักอย่าง ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะดี ตามหลักผลนิยม การตัดสินใจที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่มีความสุขและดีงามนั้นมีความสำคัญมาก

2. จริยธรรมแห่งการยึดมั่นในหลักจริยธรรม

จริยธรรมตามหลักจริยธรรมเป็นวิธีคิดที่เน้นไปที่การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ทฤษฎีนี้บอกเราว่าการทำสิ่งที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นกฎเกณฑ์ ไม่ใช่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในภายหลัง

ตัวอย่างเช่น หากคุณเชื่อว่าการพูดความจริงนั้นสำคัญเสมอ คุณก็จะพูดความจริงเสมอ แม้ว่ามันจะยากก็ตาม แม้ว่าคุณจะคิดว่าไม่มีใครสังเกตเห็น แต่คุณก็ปฏิบัติตามกฎเพราะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แนวคิดนี้แสดงให้เราเห็นว่าบางครั้งกฎก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ทุกคนรู้ว่าอะไรถูกต้อง

3. คุณธรรม จริยธรรม

จริยธรรมแห่งคุณธรรมกล่าวว่าการเป็นคนดีนั้นเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่แค่การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์หรือการพิจารณาผลของการกระทำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปลูกฝังคุณสมบัติและลักษณะนิสัยที่ดี เช่น ความเมตตา ความซื่อสัตย์ และความอดทนอีกด้วย

ลองนึกภาพว่าคุณมีเพื่อนที่ใจดีและคอยช่วยเหลือเสมอ แม้ว่าบางครั้งพวกเขาจะทำผิดพลาด แต่เราก็ยังชื่นชมพวกเขาเพราะพวกเขาพยายามทำตัวดีจากภายใน จริยธรรมแห่งคุณธรรมบอกเราว่า หากเราฝึกฝนนิสัยที่ดี เช่น การแบ่งปันและการช่วยเหลือผู้อื่น เราก็จะกลายเป็นคนที่ใจดีและน่ารัก ทฤษฎีนี้ช่วยให้เราจดจ่อกับการเป็นคนดีที่สุดเท่าที่เราจะเป็นได้

4. จริยธรรมแห่งการดูแล

จริยธรรมแห่งการดูแลคือแนวคิดที่เน้นไปที่การดูแลผู้อื่น ซึ่งบอกเราว่าการรักและเอาใจใส่ผู้อื่นเป็นเรื่องสำคัญมาก แนวคิดนี้เกี่ยวกับการทำให้เพื่อน ครอบครัว และเพื่อนบ้านของเรารู้สึกปลอดภัยและเป็นที่รัก

ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณสังเกตเห็นว่าเพื่อนเศร้าเพราะของเล่นหาย คุณอาจกอดหรือช่วยหาของเล่นให้ เมื่อคุณใส่ใจผู้อื่นในลักษณะนี้ แสดงว่าคุณกำลังเข้าใจว่าจริยธรรมของความเอาใจใส่คืออะไร ทฤษฎีนี้เตือนเราว่าความเอาใจใส่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำให้ชุมชนของเราดีขึ้น

5. จริยธรรมตามสิทธิ

จริยธรรมที่ยึดหลักสิทธิเป็นทฤษฎีที่บอกเราว่าทุกคนมีสิทธิ สิทธิเป็นเหมือนกฎพิเศษที่ปกป้องผู้คน เมื่อคุณมีสิทธิ คุณก็จะได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมและด้วยความเคารพ

ตัวอย่างเช่น ในห้องเรียนของคุณ คุณมีสิทธิที่จะเรียนรู้และมีสิทธิที่จะรู้สึกปลอดภัย จริยธรรมที่ยึดหลักสิทธิเตือนให้เราเคารพสิทธิของทุกคนรอบตัวเรา เมื่อคุณฟังใครสักคนหรืออนุญาตให้พวกเขาแบ่งปันความคิด คุณก็กำลังเคารพสิทธิของพวกเขา วิธีคิดแบบนี้ช่วยให้ทุกคนรู้สึกมีคุณค่าและสำคัญ

ทฤษฎีจริยธรรมช่วยเราในชีวิตประจำวันได้อย่างไร?

ในแต่ละวัน เราต้องเผชิญกับทางเลือก บางครั้งทางเลือกเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น การตัดสินใจว่าจะแบ่งปันของเล่นหรือจะพูดอะไรกับเพื่อน ทฤษฎีทางจริยธรรมช่วยให้เราเข้าใจว่าทางเลือกใดดีที่สุด

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณพบเหรียญในสนามเด็กเล่น คุณอาจสงสัยว่า "ฉันควรเก็บเหรียญนั้นไว้ หรือควรบอกครู" หากคุณคิดถึงจริยธรรมแห่งหลักจริยธรรม คุณอาจบอกว่าการปฏิบัติตามกฎแห่งความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญ นั่นหมายความว่าคุณตัดสินใจที่จะบอกครูของคุณ เพราะการเก็บเหรียญไว้อาจไม่ถูกต้อง

วันหนึ่ง คุณอาจเห็นเพื่อนสองคนทะเลาะกัน โดยคำนึงถึงจริยธรรมในการดูแล คุณอาจตัดสินใจช่วยพวกเขาคืนดีกันหรือฟังทั้งสองฝ่าย คุณใส่ใจความรู้สึกของพวกเขา และนั่นคือตัวอย่างของการใช้ความคิดเชิงจริยธรรม

บางครั้งผลลัพธ์ของการกระทำก็มีความสำคัญ ด้วยแนวคิดแบบเห็นผล คุณอาจตัดสินใจว่าการแบ่งปันขนมของคุณจะทำให้เพื่อนๆ ยิ้มได้มากขึ้นและทำให้วันของคุณมีความสุข คุณคิดถึงผลลัพธ์อันน่ายินดี ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณแบ่งปัน

จริยธรรมแห่งคุณธรรมช่วยให้คุณจำได้ว่าการเป็นคนดีไม่ใช่แค่เรื่องของกฎเกณฑ์หรือผลลัพธ์เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของการสร้างจิตใจที่ดีอีกด้วย เมื่อคุณฝึกฝนความเมตตากรุณาทุกวัน คุณก็กำลังสร้างตัวตนที่แข็งแกร่งขึ้น เช่นเดียวกับต้นไม้ที่เติบโตแข็งแรงขึ้นด้วยความเอาใจใส่และเวลา

ตัวอย่างที่เกี่ยวข้องจากชีวิตประจำวัน

มาดูตัวอย่างง่ายๆ ที่แสดงให้เห็นว่าทฤษฎีจริยธรรมใช้ในชีวิตประจำวันของเราอย่างไร:

เข้าใจสิ่งถูกและผิดผ่านเรื่องราว

เรื่องราวต่างๆ ช่วยให้เราเข้าใจทฤษฎีจริยธรรมในรูปแบบที่สนุกสนาน ลองนึกถึงนิทานหรือนิทานพื้นบ้านที่คุณเคยได้ยินมา เรื่องราวเหล่านี้หลายเรื่องสอนบทเรียนด้านคุณธรรมแก่เรา ตัวอย่างเช่น ในเรื่องราวที่กระต่ายช่วยเต่าแม้ว่ากระต่ายจะเร็วมาก เราก็เรียนรู้ว่าความเมตตาและความอดทนมีความสำคัญ เรื่องราวที่ดีจะทำให้เราคิดว่าเราปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไรและเหตุใดเราจึงเลือกปฏิบัติเช่นนั้น

เมื่อคุณฟังเรื่องราวที่ตัวละครเลือกทำสิ่งที่ถูกต้อง คุณจะเรียนรู้เกี่ยวกับทฤษฎีจริยธรรมด้วย ตัวละครอาจเลือกที่จะใจดีหรือซื่อสัตย์ แม้ว่าจะดูยากก็ตาม ทางเลือกของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงแนวคิดเบื้องหลังผลนิยม จริยธรรมแห่งการยึดมั่นในศีลธรรม จริยธรรมแห่งคุณธรรม และจริยธรรมแห่งการดูแล

ความสำคัญของความเมตตากรุณาและความยุติธรรม

หัวใจสำคัญของทฤษฎีจริยธรรมคือแนวคิดเรื่องความเมตตาและความยุติธรรม ไม่ว่าคุณจะใช้ทฤษฎีใด คุณก็กำลังเรียนรู้ว่าการมีความเมตตาเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อคุณมีความเมตตา คุณจะช่วยให้ผู้อื่นมีความสุขและปลอดภัย ความยุติธรรมยังมีความสำคัญเพราะช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกคนจะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ

ลองนึกถึงเวลาที่คุณแบ่งปันขนม รับฟังเพื่อนอย่างตั้งใจ หรือช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือ การกระทำเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้แนวคิดทางจริยธรรมโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแนวคิดเหล่านั้นมีพื้นฐานมาจากอะไร คุณกำลังปฏิบัติตามหลักความยุติธรรม ความซื่อสัตย์ และความเอาใจใส่ในชีวิตประจำวันของคุณ

การเรียนรู้ที่จะทำการเลือกที่ดี

ในแต่ละวัน เราต้องทำการตัดสินใจมากมาย การตัดสินใจบางอย่างเป็นเรื่องใหญ่ บางอย่างเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ทุกการตัดสินใจล้วนมีความสำคัญ เมื่อคุณเลือกที่จะแบ่งปันของเล่น พูดจาดีๆ หรือช่วยเหลือผู้อื่น คุณกำลังใช้แนวคิดจากทฤษฎีจริยธรรม คุณกำลังเรียนรู้ที่จะเป็นคนดีและใส่ใจผู้อื่น

บางครั้งคุณอาจสับสนว่าจะเลือกทางเลือกใดดี ในช่วงเวลาดังกล่าว คุณสามารถคิดถึงแนวคิดต่างๆ ที่เราพูดถึงได้ ถามตัวเองว่า "การกระทำของฉันจะทำให้เพื่อนของฉันมีความสุขหรือไม่" (นี่คือการคิดแบบผลนิยม) หรือ "ฉันควรปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ใดที่ถูกต้อง" (นี่คือจริยธรรมแห่งหลักจริยธรรม) หรือ "ฉันจะแสดงความกรุณาและเอาใจใส่ได้อย่างไร" (นี่คือจริยธรรมแห่งคุณธรรมและจริยธรรมแห่งการดูแล)

คำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าการเลือกสิ่งที่ถูกต้องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องพยายามทำให้ดีที่สุด การใช้แนวคิดทางจริยธรรมง่ายๆ จะช่วยให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับความยุติธรรมมากขึ้น และสร้างลักษณะนิสัยที่เข้มแข็งที่จะนำทางคุณไปตลอดชีวิต

บทบาทของวัฒนธรรมและครอบครัวในจริยธรรม

ครอบครัวและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันบางครั้งก็มีแนวคิดของตนเองเกี่ยวกับสิ่งที่ถูกและผิด สิ่งที่ครอบครัวหนึ่งถือว่าดีอาจแตกต่างจากอีกครอบครัวหนึ่งเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม แนวคิดพื้นฐานหลายๆ อย่าง เช่น การซื่อสัตย์และใจดี ก็เป็นแนวคิดเดียวกันทุกที่

ครอบครัวของคุณอาจสอนกฎสำคัญๆ ให้คุณที่บ้าน พวกเขาอาจบอกว่า "แบ่งปันของเล่นของคุณเสมอ" หรือ "พูดความจริง" บทเรียนเหล่านี้จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการรับรู้ผิดชอบชั่วดี การเรียนรู้จากครอบครัวเป็นก้าวแรกในการทำความเข้าใจทฤษฎีจริยธรรม แม้ว่าคุณจะยังไม่รู้จักชื่อต่างๆ เช่น หลักผลนิยมหรือจริยธรรมที่ยึดถือหลักจริยธรรมก็ตาม

วัฒนธรรมต่างๆ ทั่วโลกก็มีแนวคิดที่คล้ายคลึงกัน เรื่องราวที่เล่าโดยปู่ย่าตายายและครูมักมีเนื้อหาเกี่ยวกับความยุติธรรม ความเคารพ และการช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ว่าผู้คนอาจมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างหรือพูดภาษาต่างกัน แต่ความปรารถนาที่จะเป็นคนใจดีเป็นสิ่งที่เราทุกคนมีเหมือนกัน

ทางเลือกในชีวิตประจำวันและทฤษฎีทางจริยธรรม

หากคุณลองนึกถึงวันของคุณ คุณจะเห็นหลายช่วงเวลาที่คุณใช้แนวคิดทางจริยธรรม แม้ว่าคุณจะไม่รู้ตัวก็ตาม เมื่อคุณผูกเชือกรองเท้าในตอนเช้าแล้วช่วยเหลือเพื่อนที่ต้องการความช่วยเหลือ คุณกำลังแสดงความห่วงใย เมื่อคุณพูดว่า "โปรด" และ "ขอบคุณ" คุณกำลังปฏิบัติตามกฎที่ดี การกระทำง่ายๆ เหล่านี้เป็นบทเรียนด้านจริยธรรม

การเลือกเล็กๆ น้อยๆ ทุกครั้งช่วยเสริมสร้างตัวตนของเรา เมื่อเราฝึกฝนความเมตตา ความยุติธรรม และความซื่อสัตย์ทุกวัน เราก็ได้ทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นทีละก้าว บางครั้ง การทำความดีแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างความแตกต่างครั้งใหญ่ให้กับวันของใครบางคนได้ นั่นคือเหตุผลที่ทฤษฎีจริยธรรมมีความสำคัญสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไรก็ตาม

วิธีคิดเกี่ยวกับทฤษฎีจริยธรรม

แม้ว่าทฤษฎีจริยธรรมจะมีชื่อยาว แต่คุณสามารถคิดถึงมันในรูปแบบที่เรียบง่ายได้:

คุณสามารถจินตนาการถึงแนวคิดเหล่านี้ได้เหมือนกับแว่นตาแต่ละอัน เมื่อคุณสวมแว่นอันหนึ่ง คุณจะมองเห็นโลกด้วยแนวคิดนั้น บางครั้งคุณต้องสวมแว่นทั้งหมดเพื่อให้มองเห็นภาพรวมของความเมตตากรุณาและความยุติธรรม นี่คือวิธีที่ทฤษฎีจริยธรรมทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้เราตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีได้

ทฤษฎีจริยธรรมทำให้โลกดีขึ้นได้อย่างไร

เมื่อผู้คนปฏิบัติตามทฤษฎีจริยธรรม สิ่งดีๆ มากมายก็เกิดขึ้น ครู ผู้ปกครอง และเพื่อนๆ ร่วมมือกันเพื่อให้ทุกคนปลอดภัยและมีความสุข ในโรงเรียนของคุณ เมื่อทุกคนรับฟังและแบ่งปัน ห้องเรียนก็จะกลายเป็นสถานที่สำหรับการเรียนรู้และความสนุกสนาน เมื่อชุมชนใช้แนวคิดเช่นความยุติธรรมและความเอาใจใส่ ผู้คนจะรู้สึกได้รับการเคารพและความรัก

ลองนึกถึงสนามเด็กเล่นที่ทุกคนผลัดกันเล่นและแบ่งอุปกรณ์กันเล่น เมื่อเด็กแต่ละคนปฏิบัติตามแนวคิดเรื่องความยุติธรรม เวลาเล่นก็จะปลอดภัยและสนุกสนานสำหรับทุกคน นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของการทำงานร่วมกันของทฤษฎีจริยธรรม เช่น จริยธรรมตามหลักจริยธรรมและหลักผลนิยม ทฤษฎีเหล่านี้เตือนให้เรานึกถึงผู้อื่นและทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ

แม้หลังเลิกเรียนหรือที่บ้าน คุณจะเห็นว่าทฤษฎีจริยธรรมมีประโยชน์หลายประการ เมื่อเพื่อนบ้านช่วยกันซื้อของ หรือเมื่อครอบครัวนั่งคุยกันและใช้เวลาร่วมกัน แนวคิดด้านจริยธรรมจะทำให้ทุกคนรู้สึกสำคัญ การกระทำในแต่ละวันเหล่านี้แสดงให้เราเห็นว่าจริยธรรมไม่ใช่แค่แนวคิดใหญ่ๆ ที่ได้รับการศึกษาในหนังสือเท่านั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา

การสร้างชุมชนที่ใจดีและเอาใจใส่

ทฤษฎีจริยธรรมช่วยสร้างชุมชนที่ใจดีและเอาใจใส่ เมื่อคุณแสดงความเมตตาด้วยการแบ่งปัน รับฟัง และเอาใจใส่ผู้อื่น คุณก็กำลังช่วยสร้างโลกที่เป็นมิตร ชุมชนที่มีสุขภาพดีเปรียบเสมือนสวนที่ทุกคนทำงานร่วมกันเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้เติบโต

ลองนึกภาพสวนที่ดอกไม้ทุกดอกต้องการน้ำและแสงแดด เมื่อคุณดูแลสวน ดอกไม้ทุกดอกก็จะเติบโตอย่างสวยงาม ในทำนองเดียวกัน เมื่อคุณและเพื่อนๆ ดูแลซึ่งกันและกัน คุณทุกคนก็จะเติบโตไปด้วยกันโดยเรียนรู้วิธีที่ถูกต้องในการโต้ตอบและสนับสนุนซึ่งกันและกัน

การใช้ทฤษฎีจริยธรรมจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าการตัดสินใจแต่ละครั้งของคุณจะช่วยให้เพื่อนยิ้มหรือทำให้วันของใครบางคนดีขึ้นได้อย่างไร การทำความดีเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เมื่อนำมารวมกันจะสร้างชุมชนที่มีความสุขขนาดใหญ่

สรุปประเด็นสำคัญ

วันนี้เราเรียนรู้ว่า จริยธรรม คือการรู้ถึงความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ถูกต้องและผิด เราได้ศึกษาทฤษฎีทางจริยธรรมหลายประการ:

เราพบว่าแนวคิดเหล่านี้ช่วยให้เราตัดสินใจเลือกสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันของเล่นที่โรงเรียน การเล่นอย่างยุติธรรม หรือการบอกความจริง ทฤษฎีทางจริยธรรมเป็นแนวทางให้เรา ทฤษฎีเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจว่าเหตุใดการเป็นคนใจดี ซื่อสัตย์ และให้ความช่วยเหลือผู้อื่นจึงมีความสำคัญ

จำไว้ว่าทฤษฎีจริยธรรมไม่ใช่แค่คำพูดที่โด่งดังในหนังสือเท่านั้น แต่ยังอยู่ในใจเราและชี้ให้เราเห็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เมื่อคุณใช้แนวคิดเหล่านี้ คุณช่วยทำให้ห้องเรียน ละแวกบ้าน และโลกของคุณเป็นสถานที่ที่มีความสุขมากขึ้น

พยายามจำไว้เสมอว่าการทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ทุกครั้งล้วนมีความหมาย การเลือกของคุณมีความสำคัญ และการใช้แนวคิดทางจริยธรรมเหล่านี้สามารถนำไปสู่ชุมชนที่ดีขึ้นและมีความห่วงใยกันมากขึ้น โลกจะสดใสขึ้นเมื่อทุกคนคิดถึงสิ่งที่ถูกต้องและทำงานร่วมกันด้วยจิตใจที่เมตตา

การทำความเข้าใจจริยธรรมอย่างง่ายๆ จะช่วยให้คุณมีแนวทางในการยุติธรรมและเอาใจใส่ผู้อื่นได้ ลองนึกถึงทฤษฎีจริยธรรมว่าเป็นคำแนะนำที่เป็นมิตรซึ่งสามารถช่วยให้คุณเลือกการกระทำที่ถูกต้องได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันขนมหรือการช่วยเหลือเพื่อนที่ต้องการความช่วยเหลือ

จดจำแนวคิดสำคัญเหล่านี้ไว้ในใจทุกครั้งที่คุณต้องเผชิญกับการตัดสินใจ คุณมีอำนาจในการตัดสินใจที่ช่วยให้คุณและทุกคนรอบตัวคุณแข็งแกร่งและมีความสุขมากขึ้น ทฤษฎีทางจริยธรรมเตือนเราว่าแม้แต่การทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถส่องแสงเหมือนแสงสว่างเล็กๆ ในโลกได้

บทเรียนนี้แสดงให้เราเห็นว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับจริยธรรมนั้นเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่คุณเป็นคนใจดี ซื่อสัตย์ ยุติธรรม และเอาใจใส่ คุณก็กำลังปฏิบัติตามทฤษฎีจริยธรรมทุกวัน การแสดงออกอย่างมีน้ำใจทุกครั้งของคุณจะช่วยสร้างโลกที่ดีขึ้นและสอนให้คนรอบข้างคุณรู้จักคุณค่าอันยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน

จงจำไว้เสมอว่า การทำสิ่งที่ถูกต้องเป็นการเดินทาง เมื่อคุณเติบโตขึ้น บทเรียนด้านจริยธรรมจะช่วยชี้แนะให้คุณกลายเป็นคนที่เอาใจใส่และคิดถึงผู้อื่น ปล่อยให้การกระทำของคุณเต็มไปด้วยความเมตตา และปล่อยให้ทฤษฎีด้านจริยธรรมเตือนคุณว่าการทำความดีทุกครั้งจะทำให้โลกสดใสขึ้นเล็กน้อย

Download Primer to continue