หุ้นเป็นตัวแทนของผลประโยชน์ความเป็นเจ้าของในบริษัทหรือสินทรัพย์ทางการเงิน นักลงทุนซื้อหุ้นเพื่อเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท และในทางกลับกัน พวกเขาอาจได้รับเงินปันผลและได้รับสิทธิในการออกเสียงลงคะแนน หุ้นมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ และราคาของหุ้นมีความผันผวนตามการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทาน
หุ้นหรือที่เรียกว่าหุ้น แสดงถึงหน่วยความเป็นเจ้าของในบริษัทหรือสินทรัพย์ทางการเงิน เมื่อบริษัทออกหุ้น จะแบ่งการเป็นเจ้าของออกเป็นส่วนเท่าๆ กัน หุ้นแต่ละหุ้นมีความหมายถึงเศษของทุนของบริษัท ทำให้ผู้ถือหุ้นมีสิทธิในส่วนหนึ่งของสินทรัพย์และรายได้ของบริษัท
หุ้นมีสองประเภทหลัก: หุ้นสามัญ และ หุ้นบุริมสิทธิ
บริษัทออกหุ้นเพื่อระดมทุนเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การขยายธุรกิจ การวิจัยและพัฒนา หรือการชำระหนี้ กระบวนการนี้เรียกว่า การเสนอขายต่อสาธารณะครั้งแรก (IPO) เมื่อออกหุ้นแล้ว ก็จะสามารถซื้อและขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ ราคาของหุ้นถูกกำหนดโดยตลาดและมีอิทธิพลต่อมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัท โดยคำนวณดังนี้:
\( \textrm{มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด} = \textrm{ราคาหุ้น} \times \textrm{จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด} \)หุ้นมีบทบาทสำคัญในตลาดการเงินโดย:
ประโยชน์หลักประการหนึ่งของการเป็นเจ้าของหุ้นคือศักยภาพในการรับเงินปันผล เงินปันผลคือการที่บริษัทจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นจากผลกำไร จำนวนและความถี่ของการจ่ายเงินปันผลอาจแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละบริษัท โดยทั่วไป อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะใช้ในการวัดผลตอบแทนจากการลงทุนของหุ้นที่จ่ายเงินปันผล โดยคำนวณได้ดังนี้
\( \textrm{อัตราผลตอบแทนเงินปันผล} = \frac{\textrm{เงินปันผลประจำปีต่อหุ้น}}{\textrm{ราคาหุ้น}} \)การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยง เช่น ความเสี่ยงด้านตลาด ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง และความเสี่ยงเฉพาะบริษัท มูลค่าของหุ้นสามารถขึ้นหรือลงได้ตามปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพเศรษฐกิจ ผลการดำเนินงานของบริษัท และความเชื่อมั่นของตลาด ดังนั้นผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนและพิจารณาการยอมรับความเสี่ยงก่อนลงทุนในหุ้น
หากต้องการลงทุนในหุ้น ผู้ลงทุนจะต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ เมื่อตั้งค่าบัญชีแล้ว นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ได้ สิ่งสำคัญคือต้องกระจายการลงทุนของคุณในภาคส่วนและบริษัทต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง การทำความเข้าใจการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิคยังสามารถช่วยในการตัดสินใจลงทุนโดยมีข้อมูลครบถ้วน
ตลาดหลักทรัพย์อำนวยความสะดวกในการซื้อและขายหุ้น และจัดให้มีสภาพแวดล้อมที่โปร่งใสและมีการควบคุมสำหรับผู้เข้าร่วมตลาด ตลาดหลักทรัพย์หลัก ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และ NASDAQ การแลกเปลี่ยนเหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าการซื้อขายจะดำเนินการอย่างยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุน
หุ้นเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของตลาดการเงิน ซึ่งเสนอทั้งโอกาสและความเสี่ยงให้กับนักลงทุน ไม่ว่าจะผ่านการจ่ายเงินปันผลหรือการเพิ่มทุน หุ้นสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้ แต่จำเป็นต้องตระหนักถึงความเสี่ยงโดยธรรมชาติและดำเนินการวิจัยที่เหมาะสม การทำความเข้าใจวิธีการทำงานของหุ้นและการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลโดยอาศัยการวิเคราะห์อย่างละเอียดและความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายการลงทุนและการยอมรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน นักลงทุนสามารถรับมือกับความซับซ้อนของตลาดหุ้นได้ ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนในการติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและการพัฒนาเฉพาะบริษัทที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น การทำเช่นนี้จะทำให้นักลงทุนสามารถวางตำแหน่งตัวเองได้ดีขึ้นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการเงินของตนผ่านการลงทุนในหุ้น